Uncategorized

รถยนต์มีกี่ประเภท

รถยนต์มีกี่ประเภท

เนื่องด้วยมีรถมากมาย หลากหลายรูปแบบทั่วโลก หลากสไตล์ เพื่อตอบสนองความต้องการรูปแบบต่างๆ และการใช้งานของผู้บริโภคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พักผ่อน ท่องเทียวระยะไกล ทำงานทุกๆวัน หรือการขนส่งของนั้นเอง ซึ่งทั่วโลกนั้น มีรถยนต์แบบประเภท ที่มีขายตามท้องตลอดได้หลาย เพื่อทำความเข้าใจในรูปแบบรถที่ท่านต้องการ เราจึงได้จัดรูปแบบรถแต่ละประเภท เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นของผู้ซื้อ สำหรับการจัดประเภทต่างๆ ดังนี้

  1. รถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก

รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือบ้านเราอาจจะไม่รู้จักกับคำว่า Sub-Compact (รถประเภท B-Segment ตามการเรียกของ EuroNCAP) เนื่องด้วยการจัดประเภทของรถในไทยนั้น ค่อนข้างที่จะสับสนเป็นอย่างมาก ซึ่เรานั้นมักเรียกเหมารวมกัน ตัวอย่างเช่น รถปิกอัพ , รถเก๋ง และอื่นๆอีกมากมาย หรือระบบเครื่องยนต์เป็นการแบบประเภทนั้นเอง โดยการเรียกรถกลุ่ม Sub-Compact นั้น ส่วนใหญ่เรียกกันทางฝั่ง อเมริกา ยุเรปมากกว่า ซึ่งรถแบบนี้นั้น จะได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะ ฮอนด้า และโตโยต้า  ที่เป็นแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น รถยนต์ประเภท Sub-Compact นี้นั้น มีคุณสมบัติไม่ต่างจากรถประเภท Compact Car เท่าไร ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย มีทั้งแบบ 3, 4 และ 5 ประตูเลย สมรรถนะ การตกแต่งภายใน และอุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ นั้นจะคล้ายๆกันกับ รถยนต์ประเภทอื่นๆ เพียงแค่มีขนาดเล็กกว่าปกติเท่านั้น สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ โตโยต้า วีออส, ฮอนด้า แจ๊ส, โตโยต้า ยาริส, ฮอนด้า ซิตี้, มาสด้า 2 ซีดาน, มาสด้า 2 แฮตซ์แบ็ก, ฟอร์ด เฟียสต้า, เกีย ริโอ, เชฟโรเลต อาวีโอ,โปรตอน แซฟวี่, เปอโยต์ 207, โปรตอน ซากา และอีกมากมาย

  1. รถ ECO-Car

รถ ECO-Car หรือ อีโคคาร์ เป็นคำที่เรียกเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ECO-Car นั้นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้รถขนาดเล็ก เพื่อใช้งานในเมือง กลุ่มพึ่งเริ่มทำงาน หรือนักศึกษา รถในราคาที่ไม่แพง อะไหล่ไม่แพง เน้นการประหยัดน้ำมัน บำรุงรักษาง่าย รถ อีโคคาร์ คือโครงการที่ได้ส่งเสริมการลงทุน ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กเพื่อขายในประเทศไทย จำกัดขนาดเครื่องยนต์ไว้ให้ไม่เกิน 1.2 ลิตร และต้องประหยัดน้ำมัน 20 กม./ลิตร หากได้ตามเกณฑ์ สามารถเข้าโครงการรถ อีโคคาร์ ตามที่รัฐบาลกำหนดได้เลย รถอีโคคาร์นั้น มีอยู่ 3 ยี่ห้อ คือ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ นิสสัน มาร์ช, ฮอนด้า บริโอ, ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่, นิสสัน อัลเมร่า, เกีย พิคันโต้, เฌอรี่ คิวคิว และมิตซูบิชิ มิราจ นั้นเอง

3.รถยนต์นั่งขนาดกลาง

รถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ซึ่งจะมีขนาดภายในใหญ่ รองรับผู้ใหญ่ 5 คน ได้โดยไม่เบียดเสียด และมีเครื่องยนต์ที่สมรรถนะแรงสูงขึ้น เพื่อรองรับน้ำหนักตัวรถที่เยอะ มีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป สามารถใช้เป็นรถสำหรับครอบครัวได้ดี ซึ่งในรถประเภทนี้นั้น มีแยกย่อยออกเป็นรถยนต์ประเภทหรูหราขนาดกลางอีกด้วย (Mid-size Luxury Car)  ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย และความหรูหราภายในห้องโดยสาร  รถยนต์นั่งประเภทหรูหราขนาดกลางที่เป็นที่รู้จักกันนั้น สวนมากจะเป็นรถจากฝั่งยุโรป เช่น BMW ซีรีส์ 5, จากัวร์ XF และอื่นๆอีกมากมาย

  1. รถยนต์นั่งขนาดเล็ก

รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ Compact Car ซึ่งเป็นนถรุ่นที่ขายดีกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ เพราะรถมีขนาดที่ไม่เล็กเกินไป และไม่ใหญ่เกินไปสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่ และยังสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ และตัวถังให้เป็นแนวสปอร์ตได้ด้วย ไว้ลงแข่งขันในรายการต่างๆ อีกทั้งยังมีทั้งแบบ 4 ประตูซีดาน 5 ประตูแวกอน และแบบ 2 ประตูคูเป้ให้เลือกซื้อ รถในประเภท Compact มีขายในบ้านเราเป็นอย่างมาก และยาวนานหลายปี  ขนาดรถนั้น ความกว้างไม่เกิน 1.8 เมตร และจะมีขนาดความยาวของตัวถังระหว่าง 4.4 – 4.75 เมตร และเครื่องยนต์ขนาด 1.5-2.0 ลิตร สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส, ฮอนด้า ซีวิค, มาสด้า 3, โตโยต้า พรีอุส, เปอโยต์ 308, BMW ซีรีส์ 3 เป็นต้น

5.รถยนต์นั่งขนาดใหญ่

รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ หรือเรียกในภาษาอังกฤษ Full-Size Car ในบรรดารถเก๋งรถประเภทนี้นั้นจะมีขนาดใหญ่ที่สุด  ตัวรถจะมีความยาว 4.9 – 5 เมตร ขึ้นไป เครื่องยนต์มีตั้งแต่ 8-12 สูบ เน้นสมรรถนะ ความหรูหรา  และความแรง สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ เลกซัส LS460, โตโยต้า คราวน์, เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส, BMW ซีรีส์ 7, ออดี้ A8 เป็นต้น

6.รถประเภท Hot Hatch

หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จัก แต่ในโซนยุโรปนั้น รถประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงมาก สร้างมาบนพื้นฐานของรถแบบ Sub-Compact หรือรถแบบ Compact แต่เน้นไปทางความแรง และพลังของเครื่องยนต์ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ ตัวรถมีราคาที่ค่อนข้างแพง จากการแต่งทั้งคัน สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ มินิ คลับแมน, มินิ คูเปอร์, เฟียต 500 Abarth 695 Tributo Ferrari, โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ GTi และอื่นๆอีกมากมาย

8.รถยนต์เอนกประสงค์

หรือเรียกอีกแบบ คือ MPV กำเนิดมาในช่วงประมาณกลางๆ ยุค 80 โดยการนำเอารถตู้มาพัฒนา ให้เป็นรถยนต์นั่ง เพื่อการใช้งานที่ง่าย ในปัจจุบันรถในกลุ่ม MPV นั้น ได้มีการแบ่งเป็นย่อออกมาหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Compact MPV, Mini MPV และรถประเภทนี้นั้น โดยทั่วไปแล้วออกแบบมาให้ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า และมีเบาะนั่ง 2-3 แถว เหมาะสำหรับการเดินทางเป็นหมู่ และแบบครอบครัวใหญ่ สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ โตโยต้า เอสติม่า, โตโยต้า เวลล์ไฟร์, มาสด้า MPV นิสสัน เอลแกรนด์ และอีกมากมายที่เราได้ได้กล่าวถึง

9.รถยนต์สปอร์ต

สปอร์ตคูเป้ ซูเปอร์คาร์ รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง มีรูปทรงการดีไซน์ที่สปอร์ต เสริมชุดแต่งรอบคัน ตัวถึงมีขนาดที่เบา เพื่อมไม่ให้นํ้าหนักเยอะ เพื่อให้รถสามารถมีอัตราเร่งที่ได้สูงกว่ารถทั่วๆไป และรถประเภทนี้นั้น บางคันเป็นรถรุ่นที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด เน้นขายให้กับเศรษฐี สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ (ส่วนมากนำเข้า) มาสด้า MX-5, นิสสัน GT-R, ปอร์เช่ 911, แลมโบกีนี่ แกลลาร์โด, เมอร์เซเดส-เบนซ์ SLS และอีกมากมาย

10.รถกระบะ

รถกระบะ หรือที่ไทยเรานั้นเรียกอย่างติดปาก (Pick-Up) ซึ่งในไทยเรานั้นมียอดขายที่มากติดอันดับโลก ดังนั้นรถหลายๆ ยี่ห้อได้ย้ายการผลิตมาที่ไทย กลุ่มรถกระบะ แบ่งแยกย่อยออกอีกเป็น 3 ประเภทด้วย เช่น รถกระบะขนาดเล็ก ใช้พื้นฐานเดียวกับรถเก๋ง มีการปรับให้ด้านหลังเป็นกระบะ ใช้ในธุรกิจขนาดเล็ก รถกระบะขนาดกลาง ซึ่งเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด โดยมีน้ำหนักอยู่ประมาณ 1-1.5 ตันโดยประมาณ นิยมใช้ในทุกวงการ และทุกสาขาอาชีพ รถกระบะขนาดใหญ่ สำหรับประเภทนี้นั้นในไทย ได้รับความนิยมที่น้อย นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

11.รถยนต์เอนกประสงค์สมรรถนะสูง

รถยนต์เอนกประสงค์สมรรถนะสูง หรือ SUV โดยย่อมากจา Sport Utility Vehicle เป็นคล้ายๆ กับรถ MPV มักใช้เครื่องยนต์เบนซิน สามารถใช้ไต่เขาชัน หรือวิ่งทางวิบากได้ดีที่สุด รถประเภทนี้กำลังได้รับความนิยมมากในไทย สามารถเลือกการขับขี่ได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ สำหรับรถประเภทนี้ในไทยนั้น มีจำหน่ายได้แก่ มาสด้า CX-9, เชฟโรเลต แคปติว่า, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นต้น

 

โรงเรียนสอนขับรถศรีสะเกษ

 

ปิดความเห็น บน รถยนต์มีกี่ประเภท